วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ชนิดของนม (Types of Milk)

นมในภาษาอังกฤษ (milk)

หลายคนคงคิดว่านมนั้นมีเพียงไม่กี่ประเภท โดยอาจจะรู้จักแค่ นมสด นมไขมันต่ำ นมเปรี้ยว นมข้น แต่แท้ที่จริงแล้วนั้น นมมีอยู่มากมายหลายประเภท โดย อาจจะแบ่งออกตามกระบวนการผลิต หรือ ชนิดของนมนั้นๆ วันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่านมแต่ละชนิดนั้นเรียกกันในภาษาอังกฤษว่าอย่างไร
 
 
1. Whole / Full cream Milk / Full Fat Milk นมครบส่วน หรือ นมไขมันเต็มส่วน
 
 
2. Low Fat Milk นมไขมันต่ำ
 
 
3. Skimmed / Skim Milk นมพร่องมันเนย
 
 
4. Semi-skimmed / Partly skimmed Milk นมกึ่งพร่องมันเนย
 
 
5. Sterilized Milk นมสเตอริไลซ์
 
 
6. Pasteurized Milk นมพาสเจอร์ไรซ์
 
 
7. UHT Milk (Ultra high temperature milk or Ultra heat treated milk) นม ยู เอช ที
 
8. Flavoured Milk นมปรุงแต่ง
 
 
9. Yoghurt / Cultured Milk / Fermented Milk นมเปรี้ยว
 
 
10. Drinking Yoghurt / Cultured Milk / Fermented Milk นมเปรี้ยวพร้อมดื่ม
 
 
11. Soy Milk นมถั่วเหลือง
 
 
12. Evaporated / Condensed Milk นมข้น
 
 
13. Sweetened Condensed Milk นมข้นหวาน
 
 
14. Dried / Powder Milk นมผง
 
 
15. Humanized / Modified Milk นมผงดัดแปลง
 
 
16. Recombined Milk นมคืนรูป
 
 
17. Reconstituted / Recombined milk นมคืนรูป
 
 
เป็นยังไงกันบ้าง หลายคนคงตกใจละสิว่า ทำไมนมถึงมีมากมายหลายชนิดอย่างนี้ แต่ถ้าจะเอาจริงๆแล้วยังมีนมอีกเยอะเลยครับที่ไม่ได้พูดถึง เช่น นมประเภทต่างๆสำหรับทารก นมสำหรับผู้สูงอายุ และอื่นๆครับ เอาเป็นว่า จำคำศัพท์ที่สำคัญๆ และคิดว่าจะได้ใช้ก่อนก็พอแล้ว เดี๋ยวจะงงไปกันใหญ่

Please girls.... Give us a break

Please girls.... Give us a break

give me a break!!

Please girls...Give us a break

 
หลายคน พอเห็นหัวข้อนี้คงงงกันเป็นตาไก่ และคิดไปต่างๆนานา ว่าจะไป “ให้ผ้าเบรกกับผู้ชายทำไม” แต่จริงๆแล้วสำนวนที่ว่า “Give me a break” นั้นมีความหมายในเชิงว่า “เลิกยุ่งกับฉันสักพักได้มั้ย”

คงอยากรู้แล้วละสิว่า ผู้หญิงทั้งหลายไปทำอะไรให้ผู้ชายนั้นเก็บกดได้ถึงเพียงนี้ มาดูกันเลยดีกว่าว่าสาเหตุมันมาจากอะไรกัน
ชายคนหนึ่งสัมภาษณ์กับสำนักข่าวสี่เห็นเห็น ว่า…
 
“I always admire women’s beauty and still have. But Why? Why are you so mean to us? You always think that we’re psychopaths. Well, it’s time to change the way you think about us. I swear! We just want to appreciate your beauty and we never give you a dirty look. It’s time for you girls to give us a new look!”
 
“ผมมักชื่นชมความงามของผู้หญิงอยู่เสมอและผมก็ยังไม่เคยที่จะไม่ชื่นชมมันเลย แต่ทำไม! ทำไมพวกคุณถึงใจร้ายกับเรานัก คุณจ้องแต่จะคิดว่าเราเป็นพวกโรคจิต มันถึงเวลาแล้วแหละที่คุณควรจะเปลี่ยนความคิดเสียใหม่เกี่ยวกับพวกเรา สาบานได้เลย! พวกเราแค่ต้องการจะชื่นชมความความของคุณเท่านั้น และเราก็ไม่เคยมองพวกคุณในแนวเสียๆหายๆเลย มันถึงเวลาแล้วแหละที่คุณๆทั้งหลายจะเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับเราซะใหม่!”
 
นี่เป็นเพียงความเห็นหนึ่งของบรรดาผู้ชายเท่านั้น แล้วสาวๆทั้งหลาย คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไรบ้าง มันถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะปล่อยให้บรรดาชายหนุ่มจ้องมองคุณได้อย่างอิสระเสียที ส่วนใครที่อยากหาแรงจูงใจ (motivation) ให้กับตัวเองในการเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับผู้ชายทั้งหลาย ลองอ่านเนื้อหาข้างล่างนี้ได้เลย
 
จากข้อมูลงานวิจัยของประเทศเยอรมัน การที่ผู้ชายจ้องมอง (stare) ผู้หญิงเป็นเวลา 10 นาทีนั้น มีค่าเทียบเท่ากับ การเต้นแอโรบิค (aerobic) 30 นาที เลยทีเดียว แต่ในความเป็นจริงแล้วหากหนุ่มๆทั้งหลายมองผู้หญิงสักคนหนึ่งอย่างไม่ละสายตา ก็อาจจะโดนเหมาไปเลยว่า เป็น การล่วงละเมิดทางเพศ (sexual harassment) ไปเสียหมด ทำไมเราถึงไม่ลองคิดดูว่า เขาอาจจะมีสาเหตุบางอย่างที่ทำให้เขาจ้องคุณแบบไม่สามารถละสายตาได้ (can't take his eyes off of you) เช่น ผมคุณสวยเหลือเกิน  คุณแต่งตัวสวย  และเหตุผลอื่นๆอีกต่างๆนานา  เพราะฉะนั้นแล้ว สาวๆทั้งหลายเลิกใจร้ายเสียทีเถอะ (Don’t be evil) ให้โอกาสพวกเขาได้ออกกำลังกาย (work out/exercise) บ้างเถอะ
 
ถ้าสาวๆทั้งหลายเข้าใจ (และทำใจ) เรียบร้อยแล้วละก็ ลองมาอ่านวิธีประนีประนอม (compromisation) กับผู้ชายกันเลยดีกว่า

1. Pretend that we are invisible – “คิดซะว่าเราไม่มีตัวตน”
ถ้าเรามองคุณมากเสียจนเกินไป และ อาจทำให้คุณเขิน หรือ โมโห ได้โปรดคิดเสียว่าเราไม่มีตัวตนเลยซะดีกว่า (อย่าตอบรับด้วยการส่งสายตาจิกเราอีกเลย…) ถือซะว่าทำบุญทำทานให้กับคนจน (ปัญญา) อย่างเราเถิด

2. A smile makes life more beautiful – “ยิ้มวันละนิด จิตแจ่มใส”
เรามั่นใจว่า หากสาวๆทั้งหลายยิ้มวันละนิดแล้วชีวิตก็จะแจ่มใสตามไปด้วย เพราะฉะนั้นยิ้มให้เราหน่อยเถอะ (ยิ้มไปด่าไปก็ยังดี) เพียงเท่านี้ คุณก็ทำให้เราฝันหวานไปได้ทั้งวันแล้ว

3. Take a glance at us if you want to talk – “ชายตามองเราสักนิดถ้าคุณอยากทำความรู้จักกับเรา”
หากคุณรู้สึกว่า เราอาจเป็นเพื่อนกันได้ ได้โปรดกรุณาพวกเรา ด้วยการส่งสายตาให้เรา และอาจจะยิ้มสักนิด เพียงเท่านี้พวกเรา ชายหนุ่มรูปงามหล่อไม่เหลา ก็จะวิ่งกระดิกหางไปหาคุณทันที

4. Frown at us if you feel annoyed – “ขมวดคิ้วใส่ถ้าคุณรู้สึกรำคาญเรา”
ถ้าหากการส่งสายตาของเราทำให้พวกคุณรำคาญจนเกินไป ได้โปรดอย่าเก็บมันไว้ (และอย่าด่าบิดามารดาเราด้วย) แค่คุณขมวดคิ้วให้เราเท่านั้น เราก็จะพับเสื่อกลับบ้านทันที (มั้ง)
 
บทความนี้แต่งโดย พี่จิว เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ของผู้ชายบางคน  

บทเพลงให้กำลังใจชาวญี่ปุ่นกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิ

บทเพลงให้กำลังใจชาวญี่ปุ่นกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิ

เพลง If we hold on together พร้อมคำแปลไทย
สึนามิที่ญี่ปุ่น
If we hold on together
Don't lose your way
With each passing day
You've come so far
Don't throw it away
Live believing
Dreams are for weaving
Wonders are waiting to start
Live your story
Faith, hope & glory
Hold to the truth in your heart
If we hold on together
I know our dreams will never die
Dreams see us through to forever
Where clouds roll by
For you and I
Souls in the wind
Must learn how to bend
Seek out a star
Hold on to the end
Valley, mountain
There is a fountain
Washes our tears all away
Words are swaying
Someone is praying
Please let us come home to stay
If we hold on together
I know our dreams will never die
Dreams see us through to forever
Where clouds roll by
For you and I
When we are out there in the dark
We'll dream about the sun
In the dark we'll feel the light
Warm our hearts, everyone
If we hold on together
I know our dreams will never die
Dreams see us through to forever
As high as souls can fly
The clouds roll by
For you and I
เด็กอิงก์ทั้งหลายมาร่วมเป็นกำลังใจให้กับคนญี่ปุ่นกันด้วยนะครับ
เครดิต: เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์